การเขียน Statement of Purpose



Statement of Purpose หรือ SOP ก็คือ เรียงความหรือบทความ (Essay) ที่ทำให้มหาวิทยาลัยได้รู้จักเรามากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากในการพิจารณารับเข้าเรียนของสถาบันต่างๆ  99% ของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักกำหนดให้ผู้สมัครเขียน SOP ด้วย 

SOP ชิ้นหนึ่งจะต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้

ย่อหน้าที่ 1 – แรงกระตุ้นให้เลือกเรียนสาขานี้ 

ซึ่งย่อหน้าแรกควรจะ “ดึงความสนใจ” ของผู้อ่านทันที  เพราะ อย่าลืมว่าฝ่าย admission ของทางมหาวิทยาลัยอ่าน SOP  อย่างที่คุณเขียนอยู่ปีหนึ่งเป็นพันฉบับ เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณเขียนจะต้อง “น่าสนใจ” และถ้าทำได้ “น่าติดตาม” เพื่อให้เขาอ่านต่อไปเรื่อยๆ หลักการเลือกของมหาวิทยาลัย ปรกติแล้วจะดึงผู้สมัครที่ academic requirement หรือเกรดถึงออกมาก่อน ตัวนี้อาจจะหมายถึงแค่เกรด หรือรวมไปถึงระดับภาษาอังกฤษด้วย ขึ้นอยู่กับมหาลัย แต่หลังจากที่คุณได้ผ่านเข้ามาด้วยเกรด (หรือกิจกรรมทีดีมากจนสามารถคานกับเกรดที่ไม่ถึงเกณฑ์ได้) ก็ต้องแข่งกันที่ “ลักษณะนิสัย” “ความตั้งใจ” ของผู้สมัครอย่างที่ปรากฏใน SOP ดังนั้น ย่อหน้าที่ 1 จะต้องระบุดังนี้ 
– ทำไมถึงเลือกสาขา/วิชานี้
– เกี่ยวข้องกับประสบการณ์และความสนใจของเราอย่างไร

ย่อหน้าที่ 2 – รายละเอียดของคอร์สที่เลือก และความเหมาะสมกับเรา 
ย่อหน้าที่2 นี้จะต้องสอดคล้องกับย่อหน้าแรก เป็นการอธิบายเพิ่มเติมจากย่อหน้าแรก แต่ที่สำคัญ ระวังอย่าให้ดูซ้ำซ้อนเกินไปกับย่อหน้าแรก เขียนให้ละเอียด แต่ขณะเดียวจะต้องกะทัดรัด ได้ใจความ คั้นน้ำออกไปให้มากที่สุด ประโยคไหนที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยส่งเสริมตัวผู้สมัครในด้านไหนเลย เอาออกเสีย ดังนั้น ย่อหน้าที่ 1 จะต้องระบุดังนี้ 
– ความสนใจและการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สเรียน
– อ้างอิงถึงแต่ละวิชาในหลักสูตร
– พยายามกล่าวถึงเหตุผลที่ต้องการเรียนหลักสูตร/มหาวิทยาลัยนี้ และหลักสูตรนี้พิเศษสำหรับเราอย่างไร

ย่อหน้าที่ 3 – ประวัติการเรียนและการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร

อธิบายให้ว่าทำไมคุณถึงมีคุณลักษณะที่ดี สามารถเป็นผู้สมัครได้ ผู้ให้ชัดว่ามีประสบการณ์ทำอะไรมาบ้าง ทำไมคณะนี้ ที่มหาวิทยาลัยนี้ถึงเหมาะกับเรา พูดถึงสิ่งที่ผลักดันให้เราพุ่งความสนใจมาที่มหาวิทยาลัยนี้ ภาควิชานี้น่าสนใจ เพราะหลักสูตรเป็นอย่างไร ส่งผลต่ออนาคตในการทำงาน/ตามความฝัน/ได้ดียิ่งขึ้น ต้องบอกด้วยว่าเพราะอะไร หาเหตุและผลมาเขียนเพื่อให้ดูมีความน่าเชื่อถือ และอย่าลืมลงท้ายว่า การศึกษาที่มหาลัยนี้เหมาะกับเป้าหมายเราอย่างไร ทำไมถึงเหมาะ และเป้าหมายเราสำคัญอย่างไร
– เชื่อมโยงแผนในอนาคตเข้ากับคอร์สที่เลือกเรียน และอธิบายสิ่งที่คุณคิดว่าคอร์สนี้จะช่วยในสายอาชีพ

**ย่อหน้าที่ 2 และ 3 สามารถสลับกันได้**

ย่อหน้าที่ 4 – สรุป

ย่อหน้านี้ เป็นย่อหน้าที่จะต้องสรุปใจความหลักของทุกย่อหน้าที่ผ่านมา เพื่อย้ำเตือนผู้อ่าน ว่าเขาอ่านอะไรไป และอะไรคือประหลักที่เราอยากให้เขาจำได้เมื่อเขาวางมือจาก sop ของเราไปอ่านของคนอื่นต่อ วิธีลงท้าย sop มีหลายแบบ จบธรรมดาด้วยการขอบคุณสำหรับเวลา (Thank you for your time)  หรือจบอย่างชัดเจนไปเลยว่า Looking forward to see you in the upcoming academic trimester ก็ได้ 

เช็คลิสส่วนสำคัญของ Personal Statement

  • ใช้รูปแบบอักษร Arial (ขนาด 10) หรือ Times New Roman (ขนาด 11-12)
  • ประมาณ 4-5 ย่อหน้า (Paragraph)
  • ใช้ประโยคความเดียว ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย 
  • หลีกเลี่ยงการเขียนสิ่งต่างๆที่เป็นในเชิงลบ
  • อย่าลืม ตรวจทานศัพท์ และแยกศัพท์บางคำที่เป็นของอังกฤษหรืออเมริกา เช่น Color (อเมริกา) กับ colour (อังกฤษ) เพื่อให้ตรงกับประเทศที่คุณสมัคร 
  • ควรเขียนให้อยู่ในหนึ่งหน้ากระดาษ A4 เว้นแต่ว่าหลักสูตรนั้นจะกำหนดให้ผู้สมัครเขียนมากกว่า หรือน้อยกว่าหนึ่งหน้ากระดาษ A4

==================================================================

Ascend Education Center ให้บริการเขียน SOP โดย น้องๆจะต้องจัดส่งข้อมูลส่วนตัว อย่างน้อย 4 ข้อดังนี้
1. Resume/CV 
2. Link มหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร 
3. เหตุผลในการเืลือกเรียนสาขานี้
4. เป้าหมายการทำงานอนาคตหลังเรียนจบ 
ต้องการข้อมูลของผู้สมัครให้ได้มากที่สุด จากนั้นทางทีมงานนักเขียนจะนำไปเรียบเรียงและปรับแต่งให้เหมาะสม พร้อมกับ double check โดยเจ้าของภาษาก่อนส่งฉบับจริงให้
ค่าบริการเขียน SOP เริ่มต้นที่ 1000 - 1500 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของเนื้องาน เนื่องจากรายละเอียดในการเขียนจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับข้อมูลของแต่ละคน
====================================================================

สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้