อยากไป เรียนภาษาเกาหลี ที่ประเทศเกาหลี ต้องทำอย่างไร

อยากไป เรียนภาษาเกาหลี ที่ประเทศเกาหลี ต้องทำอย่างไร 

มีน้องๆ LINE มาถามพี่หลันหลายคนว่า จะไปเรียนภาษาเกาหลี สัก 1 - 3 เดือน ต้องทำอย่างไร 

ง่ายมากๆค่ะ วันนี้พี่หลัน จะแนะนำทั้งขั้นตอนการไปเรียนภาษากับสถาบัน LEXIS KOREA มาให้น้องๆได้ศึกษาและเตรียมพร้อมไปแจ่มกันที่ โซล (Seoul) หรือ ปูซาน (Busan) กันจ๊ะ 

เกี่ยวกับ LEXIS KOREA
Lexis Korea เป็นสถาบันสอนภาษาเกาหลี ที่มีคุณภาพสูงมาก ตั้งอยู่ที่  Seoul และ Busan 
โดยที่โซลนั้น สถาบันตั้งอยู่ที่ อาคาร ANY Tower ในย่านกังนัม ที่โด่งดังไปทั่วโลก Lexis Korea เป็นส่วนหนึ่งของ Lexis Group  ซึ่งเปิดหลักสูตรสอนภาษาในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ให้กับนักเรียนมากกว่า 1,000 คน มากกว่า 15 เชื้อชาติ ต่อปี  นอกจากนี้ Lexis ยังโดดเด่นในเรื่อง ที่พัก ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัว สถาบัน นักเรียนสามารถเดินไปเรียนได้โดยปลอดภัย

Lexis Korea เตรียมทรัพยากรอย่างดีที่สุดเพื่อนักเรียนของเรา นักเรียนมั่นใจได้ว่าเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุด มีการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น และอาจารย์ผู้สอนภาษาเกาหลีมีคุณสมบัติครบถ้วน และสอนสนุก 

หลักสูตรการเรียนการสอน

◆ Intensive Korean Course (15 Hours : Week)
เปิด คอร์สเรียนใหม่ : ทุกวันจันทร์ – เรียน จันทร์ ถึง ศุกร์
ระยะเวลาเรียน 1-72 สัปดาห์
หลักสูตรมีทั้งหมด 3 ระดับ : Beginners Intermediate และ  Advanced
เวลาเรียน 09:00 – 12:15 น.
◆ Intensive Korean Course (25 Hours : Week)
เปิด คอร์สเรียนใหม่ : ทุกวันจันทร์ – เรียน จันทร์ ถึง ศุกร์
ระยะเวลาเรียน 1-72 สัปดาห์
หลักสูตรมีทั้งหมด 3 ระดับ : Beginners Intermediate และ  Advanced
เวลาเรียน 09:00 – 15:30 น.
◆ TOPIK Exam Preparation Course (25 Hours : Week)
เปิด คอร์สเรียนใหม่ : ทุกวันจันทร์ – เรียน จันทร์ ถึง ศุกร์
ระยะเวลาเรียน 1-72 สัปดาห์ 
เวลาเรียน 09:00 – 15:30 น.

วิธีการสมัครเรียน 



ขั้นตอนการสมัครเรียน Lexis Korea 
ขั้นตอนที่ 1: เลือกหลักสูตร (ไม่จำเป็นต้องกำหนดล่วงหน้า) และที่พัก 
                   (พี่ๆ Ascend จะช่วยแนะนำโปรโมชั่น) 
ขั้นตอนที่ 2: กรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนเรียน 
ขั้นตอนที่ 3: Lexis เกาหลีจะออกจดหมายข้อเสนอ & ใบแจ้งหนี้ภายใน24ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 4: นักเรียนที่จะทำให้การชำระเงินเต็มจำนวน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง 
                   (กรณีที่ไม่ต้องขอวีซ่า) แต่ถ้าต้องขอวีซ่า จะต้องชำระเต็มจำนวนก่อนการขอวีซ่า 
ขั้นตอนที่ 5: นักเรียนให้รายละเอียดเที่ยวบินไปยัง Lexis เกาหลีที่สะดวกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขั้นตอนที่ 6: Lexis เกาหลีจะออกจดหมายยืนยัน2-4 สัปดาห์ก่อนเดินทางมาถึง หากคุณเลือกที่จะ  
                   Lexis เพื่อจัดการที่พักและบริการรับที่สนามบินของคุณจะมีการให้ข้อมูลพร้อมกับ
                   จดหมายยืนยัน
ขั้นตอนที่ 7: ลุยเกาหลีกันเล้ยยย!

เกี่ยวกับวีซ่า ประเทศเกาหลี 

ปกติแล้ว คนไทย จะสามารถเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า โดยสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 


สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย 
ที่อยู่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
Address : 23 ถนนเทียมร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพ 10320
Tel : (02)247-7537-39  
เบอร์ฉุกเฉิน : 66-81-914-5803   
Hours of Operation : 09:00-12:00, 13:30-17:00

เว็บไซต์ Korean Embassy Bangkok 

การเดินทางไปสถานทูต 
ออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน(MRT) “สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย” ทางออก 1
เดินมาตามถนนเทียมร่วมมิตรประมาณ 10 นาที สถานทูตจะตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
สถานทูตตั้งอยู่ติดกับโรงละครสยามนิรมิตร


ข้อควรรู้เกี่ยวกับเกาหลี และการเตรียมตัวไปเกาหลี
เวลา : เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
สภาพอากาศ : 7 ถึง 15 องศาเซลเซียส มีแดด (อาจมีฝนตกได้)
ภาษา : ใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษใช้ได้กับประชากรส่วนน้อย
ระบบไฟฟ้า : ระบบไฟฟ้าในเกาหลีใช้ไฟ 220 โวลต์ (เหมือนประเทศไทย) เป็นปลั๊กกลม 2 หรือ 3 ขา (มีสายดิน) หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวีดิโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กหรือ  Adapter ติดตัวไปด้วย
การโทรศัพท์ : Ÿบัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไป ตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคา 3,000 / 5,000 และ 10,000 วอน
โทรกลับประเทศไทย
กรุงเทพฯ : 001-66-2-หมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก
ต่างจังหวัด : 001-66-ตามด้วยรหัสจังหวัด-หมายเลขโทรศัพท์หกหลัก
เบอร์มือถือ  001-66-81-/ 001-66-89-/ 001-66-86- เบอร์โทรศัพท์ปกติ
กล้องถ่ายรูป : อุปกรณ์สำหรับบันทึกข้อมูล เช่น SD Card และอุปกรณ์ในการชาร์ตต่างๆ สายชาร์ต หรือแบตเตอรี่ ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะถ่านใส่กล้องถ่ายรูป ที่ต่างประเทศราคาจะสูงมาก
การแต่งกาย : ควรเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้าอย่างหนา เพราะอากาศเย็น (สำหรับท่านที่แพ้อากาศเย็นกรุณาเตรียมเครื่องกันหนาวและยาส่วนตัวไปให้ด้วย) และควรพกร่มสำหรับกันแดดและฝนไปด้วย

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารเกาหลีจะมีอาหารประเภทผักมากกว่าเนื้อ
รูปแบบของกรรมวิธีการปรุงอาหารมักไม่ค่อยใช้วิธีการทอด แต่ใช้การปิ้ง ย่าง หมักดอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อาหารชาติเกาหลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
สำหรับอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี คือ กิมจิ เป็นพวกผักดอง
อาหารเกาหลีในแต่ละภูมิภาคนั้น จะมีรสชาติที่แตกต่างกัน จังหวัดชอลลาโด ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่อาหารอร่อยที่สุด อาหารที่ขึ้นชื่อได้แก่ บิบิมบับ(ข้าวย ) คงนามูลกุกบับ(ข้าวต้มถั่วงอก) นอกจากนี้ยังมีอาหารชุด ซึ่งมีกับข้าวมากกว่า 20 ชนิด(ฮันจองชิก)
ชาวเกาหลีไม่นิยมนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะ แต่จะนั่งบนพื้นและมีโต๊ะสำหรับวางอาหาร(พับซัง) มีถ้วยซุปซึ่งวางทางด้านขวาของข้าวและมีช้อนกับตะเกียบวางอยู่ ชาวเกาหลีใช้ตะเกียบในการรับประทานอาหารซึ่งเป็นตะเกียบเหล็ก บนโต๊ะกับข้าวอาจมีหม้อแกงใหญ่วางอยู่ ซึ่งทุกคนใช้ตะเกียบหรือช้อนของตนเองตักอาหาร ไม่ใช้ช้อนกลาง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และปรองดองกันได้เป็นอย่างดี
น้ำจะเป็นน้ำเปล่า น้ำร้อน น้ำชา จะไม่มีน้ำแข็งเสิร์ฟ
เบียร์ประมาณ 3000-4000 วอน
น้ำอัดลมประมาณ 1000-2000 วอน

..................................................................................................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้