รู้...ก่อนไปไอร์แลนด์ - prepare to study in Ireland

รู้...ก่อนไปไอร์แลนด์ - prepare to study in Ireland 

เกี่ยวกับ Ireland (ไอร์แลนด์) 

สาธารณรัฐไอร์แลนด์ REPUBLIC OF IRELAND เป็นสมาชิกที่อยู่ไกลสุดทางตะวันตกของสหภาพยุโรป มีประชากร 4 ล้านกว่าคน เป็นประเทศบนเกาะไอร์แลนด์อยู่ห่างจากทวีปยุโรปไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5 ใน 6 ของเกาะดังกล่าว (ส่วนที่เหลืออีก 1 ใน 6 ของเกาะไอร์แลนด์ เรียกว่า ไอร์แลนด์เหนือ เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ) นอกจากนี้ไอร์แลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ใช้เงินยูโร

ปัจจุบันชุมชนไทยในไอร์แลนด์มีจำนวนประมาณ 1000 – 1200 คน ส่วนใหญ่แต่งงาน กับชาวไอริช และเข้าไปประกอบอาชีพด้านบริการ อาทิ พนักงานโรงแรม พ่อครัวและพนักงาน ร้านอาหารไทย และลูกจ้างในฟาร์มเกษตรของชาวไอริช สำหรับภัตตาคารและร้านอาหารไทยทั้ง ประเทศมีประมาณ 40-50 ร้าน

สภาพภูมิอากาศ

แบ่งเป็น 4 ฤดู ได้แก่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ช่วง เดือนที่หนาวที่สุดอยู่ระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ 4-7 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม มีอากาศที่อบอุ่นที่สุดของปี อุณหภูมิประมาณ 14 -16 องศาเซลเซียส ขณะที่เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน เป็นเดือนที่มีแสงแดดจัดที่สุดของปี โดยมีฝนตกเป็นช่วงๆ ตลอด ทั้งปีเนื่องจากไอร์แลนด์ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกลัมฟ์สตรีม อากาศในประเทศไอร์แลนด์จึงไม่รุนแรง หน้าหนาวไม่หนาวจัด หน้าร้อนเย็นสบาย อุณหภูมิในฤดูหนาวอยู่ประมาณ 1-6 องศา ในขณะที่อุณหภูมิในฤดุร้อนจะอยู่ที่ 15-25 องศา


เวลา

เวลาที่ไอร์แลนด์ ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 7 ชั่วโมง และช้ากว่า 6 ชั่วโมง ในช่วง Daylight-Saving Time ซึ่งเริ่มต้นในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมไปจนถึงวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม

พระอาทิตย์ขึ้น–พระอาทิตย์ตก


จะแตกต่างกันในแต่ละเดือน โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมเวลากลางวันจะยาวนานถึง 15 ชั่วโมง ส่วนในช่วงเดือนเมษายน เวลากลางวันยาวประมาณ 13 ชั่วโมง พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 7 โมงเช้าและตกประมาณ 2 ทุ่ม

ภาษา

ตามรัฐธรรมนูญไอร์แลนด์กำหนดให้ภาษาไอริช หรือเกลิค เป็นภาษาประจำชาติและ เป็นภาษาราชการอันดับแรก และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอันดับสอง แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนทั่วไปพูดและใช้ภาษาอังกฤษ มีชาวไอริชจำนวนน้อยมากที่ยังคงพูดหรือใช้ภาษาเกลิค

สกุลเงิน

ยูโร สำหรับใช้ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินปอนด์สำหรับไอร์แลนด์เหนือ

ศาสนา
กว่า 80% ของประชากรในประเทศ นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิกอย่างเคร่งครัด ส่วนประชากรที่เหลือนั้น นับถือนิกายย่อยๆอื่นๆ และศาสนาอื่นๆ

การปกครอง

ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ

รัฐสภา
ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร ( House of Representatives ) และวุฒิสภา ( Senate ) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกมีจำนวน 166 คน โดยอาศัยระบบการเลือกตั้งตามสัดส่วน คะแนนเสียง ( proportional representation )

รัฐบาล

มาจากการเลือกตั้งทุก 5 ปี – พรรคการเมืองสำคัญ ได้แก่ พรรค Fianna Fail, Fine Gael, Labour Party, Progressive Democrats, Green Party, Sinn Fein และ Socialist Party โดยพรรครัฐบาลประกอบด้วย
พรรค Fianna Fail และพรรค Progressive Democrats – นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่จำกัดสมัยหากได้รับเลือก ให้มาดำรงตำแหน่งต่อไป

ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร
ที่ไอร์แลนด์มีซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ มากมาย อย่างห้าง Super Value มีแทบทุกเมืองรวมถึงตามปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ หรือถ้าไม่อยากทำอาหารเองก็มีร้านอาหารมากมาย รวมถึงฟาสต์ฟู้ดชื่อดังแต่ราคาสูงกว่าเมืองไทยพอสมควร

น้ำประปา
มีความสะอาดและสามารถดื่มกินได้เลยค่ะ 

ระบบไฟฟ้าelectric
อุปกรณ์ไฟฟ้าในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ใช้ไฟขนาด 220 โวลต์ 50 เฮิรตซ์  หัวปลั๊กและเต้าปลั๊กที่ใช้ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือมีลักษณะเหมือนกันคือ เป็นแบบสามขา

การเดินทาง
เครื่องบิน สนามบินดับลิน (Dublin) ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองดับลิน และห่างจากใจกลางเมืองเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางจากสนามบินเข้ามาในเมือง สามารถเดินทางได้ โดยใช้รถประจำทาง รถ Coach และรถแท็กซี่

รถไฟ Dart ย่อมาจากคำว่า Dublin Area Rapid Transit เป็นระบบรถไฟที่มีความรวดเร็วสำหรับการเดินทางในเมือง สามารถดูตารางเวลาการเดินรถไฟ ได้ที่ http://www.irishrail.ie/about-us/dart-commuter

รถประจำทาง Dublin Bus จะให้บริการรถประจำทางภายในเมืองดับลิน และเมืองใกล้ ๆ เท่านั้น ในขณะที่ Bus Eireann จะให้บริหารภายในไอร์แลนด์ทั้งหมด และ Aircoach จะเป็นบริการ 24 ชั่วโมงระหว่างสนามบินดับลิน และเมืองดับลิน

จักรยาน ภายในเมืองดับลิน มีเลนสำหรับจักรยานอยู่รอบ ๆ เมือง ซึ่งจะมีสังคมของผู้ขี่จักรยานในเมืองดับลินอยู่ สามารถดูได้ที่ http://www.dublincitycycling.ie



การเข้าเมือง 
ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยจะต้องขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ก่อนเดินทางเข้าไอร์แลนด์ แม้ว่าไอร์แลนด์จะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ไม่ได้ อยู่ในระบบ Schengen Visa นะคะ (ดู วีซ่านักเรียนไอร์แลนด์

เทศกาลสำคัญของประเทศ
วันเซนต์แพททริก เทศกาลประจำชาติของชาวไอร์แลนด์ ซึ่งนอกจะเป็นเทศกาลที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมไอริชได้ดีที่สุดแล้วยังเป็นการเฉลิมฉลองที่เชื่อมโยงชาวไอริชทั่วทุกมุมโลกให้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียว

วัฒนธรรมไอริช
ประเทศไอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก และด้วยประเพณีวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์อันมั่งคั่งนี้ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ดังนั้นหากคุณเรียนอยู่ในเมืองใหญ่อย่างดับลิน คุณจะพบว่าที่นี่มีจำนวนของนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เท่าๆ กัน ในฐานะนักศึกษานานาชาติในไอร์แลนด์ คุณจะได้มีโอกาสสัมผัสกับวงการดนตรีไอริช ประเพณีการเล่าเรื่องอันเก่าแก่ อาหารอันอุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมเกลิค และเพลิดเพลินไปกับความหลากหลายของภูมิประเทศและความเขียวชอุ่ม



ดนตรีไอริช
ชาวไอริชหลงใหลในดนตรี คุณจะมีโอกาสได้ฟังดนตรีที่หลากหลายรูปแบบในช่วงที่เรียนอยู่ในไอร์แลนด์ ไม่ต้องแปลกใจหากคุณจะได้พบกับการแสดงดนตรีสดมากมายในผับที่ซึ่งดนตรีแบบดั้งเดิมยังคงมีชีวิตชีวาและได้รับการอนุรักษ์ไว้

ประเทศไอร์แลนด์เป็นแหล่งกำเนิดของศิลปินดนตรีและศิลปินสร้างสรรค์มากมาย อาทิเช่น วง U2, The Dubliners, Van Morrison, The Pogues, Damien Rice และ The Chieftains คุณจะได้สัมผัสกับสไตล์ดนตรีไอริชอันหลากหลายในเวทีการแสดงดนตรีทั่วประเทศ หากคุณชื่นชอบดนตรี ประเทศไอร์แลนด์คือสถานที่อันยอดเยี่ยมที่รอให้คุณได้สัมผัสกับกิจกรรมทางสังคมของนักศึกษา





เมืองใหญ่ของไอร์แลนด์

เขตเมืองใหญ่ของไอร์แลนด์แต่ละแห่งจะมีลักษณะเฉพาะของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์อันมีชีวิตชีวาของเมือง Dublin ที่มีบาร์ ภัตตาคารและร้านค้าบูติคแปลกแวกแนวมากมาย จนถึงเมือง Galway ที่มีงานเทศกาลและอาหารมากมายให้เพลิดเพลิน เมืองใหญ่ของประเทศไอร์แลนด์มีความเป็นสากลและคึกคักไปด้วยชีวิตยามค่ำคืนอันหลากหลายรวมถึงความเป็นกันเองที่หาได้ยากจากเมืองใหญ่แห่งอื่นของโลก

เกี่ยวกับสถาบันการศึกษาของไอร์แลนด์
การศึกษาระดับอุดมศึกษามีการเปิดสอนที่มหาวิทยาลัย วิทยาลัยการศึกษา วิทยาลัยเอกชนและสถาบันเทคโนโลยีของประเทศไอร์แลนด์



มหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์

ประเทศไอร์แลนด์ มีมหาวิทยาลัย 7 แห่งในประเทศไอร์แลนด์ ได้แก่ มหาวิทยาลัย Limerick มหาวิทยาลัย Dublin City มหาวิทยาลัยแห่งชาติ Ireland Maynooth มหาวิทยาลัย College Cork มหาวิทยาลัยแห่งชาติ Galway มหาวิทยาลัย College Dublin และวิทยาลัย Trinity Dublin โดยมหาวิทยาลัย Dublin คือมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ

มหาวิทยาลัยของไอร์แลนด์เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกการวิจัย (PhD) และหลักสูตรอนุปริญญา หลักสูตรระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่จะทำการสอนโดยการบรรยายและการกวดวิชาที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ขณะที่หลักสูตรระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจะเน้นด้านการวิจัยมากกว่า

รายชื่อของมหาวิทยาลัยทั้ง 7 แห่งมีดังนี้

  • The Trinity College Dublin (TCD, UD)
  • The University College Dublin (UCD)
  • The Dublin City University (DCU)
  • National University of Ireland, Cork (NUI-Cork)
  • National University of Ireland, Galway (NUI-Galway)
  • National University of Ireland, Maynooth (NUI-Maynooth)
  • University of Limerick (UL)


NUI– NATIONAL UNIVERSITY OF IRELAND เป็นหน่วยงานที่ให้ความดูแลสถาบันมหาวิยาลัยแห่งประเทศไอร์แลนด์ 4 แห่งตามที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งหน่วยงานนี้ก็ทำหน้าที่ควบคุมมาตรฐานของสถาบันมหาวิทยาลัยให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมีสถาบันระดับวิทยาลัยในความดูแลของ NUIอีก 3 แห่งคือ

1.National College of Art and Design (NCAD)

2.The Royal College of Surgeons in Ireland (RCSI)

3.St. Angela’s College of Education.

มหาวิทยาลัย University of Limerick และ Dublin City University (ก่อตั้งในปี1989) เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่น้อยที่สุดทจากทั้งหมด 7 สถาบัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองมหาวิทยาลัยนี้ก็ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและผลิตบุคคากรคุณภาพที่มีความสามารถมาสู่ตลาดแรงงานของโลกอย่างมากมาย

มหาวิทยาลัยอีกสองแห่งที่ตั้งอยู่ในไอร์แลนด์เหนือ คือ

  • University of Ulster (UU)
  • The Queen’s University of Belfast (QUB)


นอกจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่กล่าวมานี้จะเปิดให้การศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกแล้ว ก็ยังมีการดูแลเรื่องการวิจัยและการพัฒนาอีกด้วย อีกทั้งมหาวิทยาลัยเหล่านี้ยังได้เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรตั้งแต่ระดับปริญญาตรีเป็นต้นไปซึ่งก็เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาจากนานาประเทศได้เลือกตามความต้องการ และความเหมาะสม เช่น ในเรื่องของจุดประสงค์ของการเรียน เวลา และค่าใช้จ่าย เป็นต้น

สถาบันเทคโนโลยี

สาธารณรัฐไอร์แลนด์มีสถาบันเทคโนโลยี 14 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ และเปิดสอนหลักสูตรอนุปริญญา ประกาศนียบัตรและหลักสูตรระดับปริญญา จากความต้องการผู้สำเร็จการศึกษาทางด้านเคมีอุตสาหกรรมและเภสัชกรรม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศไอร์แลนด์ ทำให้สถาบันเหล่านี้ดำเนินการสอนด้วยทักษะความชำนาญที่ทันสมัยเพื่อตอบรับต่อความต้องการ สถาบันเทคโนโลยีเปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ระดับ 6 จนถึงระดับ 10 ของ National framework of qualifications

รายชื่อของสถาบันเทคโนโลยีทั้ง 14 แห่งมีดังนี้


  • Dublin Institute of Technology (DIT)
  • Athlone Institute of Technology (AIT)
  • Cork Institute of Technology (CIT)
  • Dundulk Institute of Technology (DKIT)
  • Dun Laohaire Institute of Technology (DLIADT)
  • Galway-Mayo Institute of Technology (GMIT)
  • Institute of Technology Blanchardstown (ITB)
  • Institute of Technology Carlow (ITC)
  • Institute of Technology Sligo (ITS)
  • Institute of Technology Tallaght (IT-Tallaght)
  • Institute of Technology Tralee (IT-Tralee)
  • Letterkenny Institue of Technology (LYIT)
  • Limerick Institute of Technology (LIT)
  • Waterford Institute of Technology (WIT)


ปัจจุบันรัฐบาลของประเทศไอร์แลนด์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการโปรโมทการศึกษานักเรียนนานาชาติ อย่างที่พี่บอกไว้ว่านอกจากนักเรียนต่างชาติจะได้รับประโยชน์จากการศึกษาที่มีมาตรฐานติดระดับต้นๆในยุโรปแล้ว ประเทศไอร์แลนด์ยังได้รับประโยชน์จากนักเรียนต่างชาติเหล่านี้ในการนำความเป็นสากลทางด้านความคิด ทรรศนคติจากนักเรียนนานาประเทศ

วิทยาลัยอิสระ

นอกเหนือจากสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว ประเทศไอร์แลนด์ยังมีวิทยาลัยเอกชนอีกมากมายที่เปิดสอนหลักสูตรและมอบบวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งหลักสูตรส่วนใหญ่จะได้รับการตรวจสอบโดย Higher Education and Training Awards Council (HETAC) หากคุณต้องการสมัครเรียนหลักสูตรระดับอุดมศึกษาที่สถาบันการศึกษาของไอร์แลนด์ คุณจำเป็นต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษที่ดี โดยได้คะแนน TOEFL ขั้นต่ำ 550 คะแนน หากคุณคิดว่าคุณจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก่อนเริ่มต้นเรียนในหลักสูตรระดับอุดมศึกษา ประเทศไอร์แลนด์มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมากมายอยู่ทั่วประเทศที่เปิดสอนทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว

วีซ่านักเรียนไอร์แลนด์

สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ( 25 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย) หรือ หลักสูตรในระดับปริญญา ต้องสมัครวีซ่านักเรียน D Study Visa

เอกสารโดยทั่วไป ของ D STUDY VISA

  • จดหมายยืนยันการลงทะเบียนจากสถาบันในประเทศไอร์แลนด์ โดยหลักสูตรเป็นหลักสูตรเต็มเวลา และลงเรียนไม่น้อยกว่า 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ กรณีที่ไม่ใช่หลักสูตรภาษาอังกฤษ จำเป็นที่จะต้องยื่นผลภาษาอังกฤษ อาทิเช่น IELTS
  • หลักฐานในการจ่ายเงินสำหรับการจ่ายค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
  • หลักฐานการเงินจะต้องมี 7,000 ยูโร ต่อปีการศึกษา
  • เอกสารประกันสุขภาพ
  • หลักฐานการเรียน อาทิเช่น ปริญญาบัตรและทรานสคริปส์
  • หลักฐานการทำงาน (ถ้ามี)
  • เอกสารยืนยันว่าจะกลับมาประเทศไทย
  • นักเรียนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศไอร์แลนด์ สามารถได้รับวีซ่าสูงสุด 8 เดือน ซึ่งแบ่งออกเป็นการเรียน 6 เดือนและท่องเที่ยวได้ 2 เดือน สามารถทำงานได้สูงสุด 20ชั่วโมง/สัปดาห์ ในช่วง 15ธันวาคม-15 มกราคม และ พฤษภาคม-สิงหาคม สามารถทำงานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง/สัปดาห์


สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนหลักสูตรภาษาในระยะสั้น (น้อยกว่า 3 เดือน) จำเป็นที่จะต้องสมัครวีซ่าระยะสั้น “C STUDY VISA” ประเทศไอร์แลนด์



  • เอกสารโดยทั่วไปของ C STUDY VISA
  • หนังสือเดินทางมีอายุ 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
  • รูปถ่ายสี พื้นหลังสีขาว ขนาด 5 ซม. x 4.5 ซม. จำนวน 2 รูป
  • ทะเบียนบ้าน
  • ประกันสุขภาพ
  • เอกสารแสดงการรับเข้าเรียนซึ่งออกโดยสถาบันการศึกษา
  • เอกสารรับรองการชำระค่าเล่าเรียน
  • เอกสารทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือนหรือหลักฐานที่มาของรายได้
  • หนังสือแสดงฐานะการเรียนในปัจจุบัน
  • ในกรณีที่ผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ปกครองไม่ได้เดินทางไปด้วย จะต้องนำเอกสารราชการที่ยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศได้มาแสดงด้วย พร้อมกับสูติบัตรตัวจริง และสำเนา
  • เรื่องไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น


**อย่าลืมพกเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยไว้ด้วย เผื่อเกิดข้อผิดพลาดประการใด หรือเจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องการโทรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้นจริงๆ ทุกอย่างจะได้ราบรื่น 

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีศูนย์ให้คำปรึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อความรอบคอบอาจจะแจ้งเที่ยวบินและวันเวลาที่เดินทางมาถึงแก่พวกเขาเอาไว้ในเบื้องต้น และควรมีเอกสารรับรองจากทางมหาวิทยาลัยพกติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา หากเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารแล้วไม่มี ก็อาจไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าประเทศ บางทีอาจมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ควบคุมไม่ได้เกิดขึ้น อย่างเช่น เที่ยวบินดีเลย์ หรือ กระเป๋าเดินทางหาย ควรควบคุมสติของตัวเองให้ดี อย่าตื่นตระหนกมากจนเกินไปนัก เจ้าหน้าที่สนามบินสามารถช่วยเหลือคุณได้ ขอเพียงให้รีบแจ้งรายละเอียดความผิดพลาดต่างๆ ให้พวกเขารับทราบ

เตรียมอะไรไปไอร์แลนด์บ้าง

ตรวจสอบให้ครบ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในกระเป๋าเดินทางที่แนะนำให้น้องๆ เตรียม ได้แก่

– ชุดนอน                                                
– ชุดลำลอง                             
– ชุดทางการ                                           
– ชุดชั้นใน
– กางเกงยีนส์หรือกางเกงที่ใส่สบายคล่องตัว                                      
– เสื้อกันหนาวหรือแจ็คเก็ต                   
– ถุงเท้า/ ถุงมือ
– ผ้าพันคอ                                              
– ชุดอุปกรณ์อาบน้ำ               
– คอนแทคเลนส์ และน้ำยาล้างเลนส์   
– แว่นตา
– แว่นกันแดด                                         
– ครีมกันแดด                         
– เครื่องสำอางค์                                    
– โลชั่นทาผิว
– รองเท้าแตะ                                          
– รองเท้าผ้าใบ                        
– รองเท้าบูท (ถ้าไปช่วงหน้าหนาว)       
– ร่มพับ
-- ที่ชาร์ตแบตมือถือ 
-- อุปกรณ์แปลงไฟสำหรับท่านที่นำอุปกรณ์ไฟฟ้าจากเมืองไทยไปใช้ในประเทศไอร์แลนด์ 
-- อย่าลืมนำอาหารและยาที่จำเป็น (ต้องมีใบกำกับยาจากแพทย์ในกรณีที่เป็นยาประจำตัว)

ข้อควรจำในการแพ็คกระเป๋า

น้ำหนักกระเป๋า : สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้นักศึกษาที่จะเดินทางไปต่างประเทศนำสิ่งของไปได้ทั้งนี้น้ำหนักของกระเป๋าขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน ฉะนั้นท่านควรนำสิ่งที่จำเป็นติดตัวไปในปริมาณที่พอเหมาะ ท่านสามารถแยกเป็น 2 กระเป๋าใหญ่หรือจะนำไปเพียงกระเป๋าเดียวก็ได้ นอกจากนี้ท่านควรมีกระเป๋าเล็กที่ติดตัวขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ไว้สำหรับเก็บเอกสารสำคัญทางการเรียน

เอกสารสำคัญที่ท่านต้องนำติดตัวขึ้นเครื่อง : เป็นเอกสารสำคัญทั้งหลาย ที่อาจจำเป็นต้องใช้ในการแสดงตัวตน ไม่ควรเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง ควรพกติดตัวไว้ตลอดเวลา โดยอาจใส่ไว้ในกระเป๋าที่คุณถือขึ้นเครื่อง และอย่าลืมทำสำเนาเอกสารสำคัญๆ เอาไว้ด้วย ได้แก่ พาสปอร์ตเล่มจริง, ใบตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย, เอกสารรับรองที่พัก (Host family/Residential Hall)

หากประสบเหตุด่วนเหตุร้าย หมายเลขฉุกเฉินของตำรวจในไอร์แลนด์ ได้แก่ 999 หรือ 122 ทั้งนี้ โดยที่ไทยไม่มีสถานเอกอัครราชทูตในกรุงดับลิน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอนจึงเป็นหน่วยงานดูแลคนไทยในไอร์แลนด์ด้วย หมายเลขติดต่อ +44 20 7225 5500 เฉพาะกรณีฉุกเฉินนอกเวลา ราชการติดต่อ +44 7918 651 720 

สำนักงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์

Garda HQ, Harcourt Square, Dublin 2   โทร: 01 478 5295
เว็บไซด์ www.touristvictimsupport.ie
สถานทูตไทยในกรุงลอนดอน, สหราชอาณาจักร
29/30 Queen’s Gate, London SW7 5JB โทร: 004420 7589 2944
เว็บไซต์: www.thaiembassyuk.org.uk

.......................................................................................................................................................................

สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้