เรียนภาษาที่ไอร์แลนด์ Study Language in Ireland

เรียนภาษาที่ไอร์แลนด์ Study Language in Ireland 




สถาบันเรียนภาษาอังกฤษในไอร์แลนด์ Study in Ireland

ไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกโดยรัฐบาลไอร์แลนด์มุ่งมั่นจะสร้างประเทศให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้นิยมมาเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุด

ไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในดินแดนดั้งเดิมของยุโรปที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไอร์แลนด์จะมีมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง
สถาบันภาษาที่ไอร์แลนด์
EC English, Dublin โรงเรียนสอนภาษาที่มีคุณภาพเยี่ยมและมีสาขาอยู่ทั่วโลก รวมทั้งในใจกลางเมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์อย่าง ดับลิน (Dublin) เป็นโรงเรียนที่ทันสมัย มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในการเรียน การเดินทางง่ายเพราะอยู่ใจกลางเมือง มีหลักสูตรครอบคลุมตามความต้องการของผู้เรียน
คลิกที่นี่เพื่อ ดูข้อมูลเกี่ยวกับ EC English Dublin



Kaplan International, Dublin โรงเรียนสอนภาษาที่เป็นที่รู้จักของนักเรียนทั่วโลก โดดเด่นในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกมั่นใจในการเรียนและการใช้ภาษาอังกฤษด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ยังมีคอร์สเพื่อเตรียมสอบ (exam preparation) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้เรียนในการเตรียมพร้อมในสนามสอบ
คลิกที่นี่เพื่อ ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Kaplan Ireland  

=======================================================


ข้อมูลทั่วไปของประเทศไอร์แลนด์
ไอร์แลนด์ หรือ ชื่อ เต็มว่า สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยทั่วไป คนไทยมักจะนำไปสับสนกับประเทศ ไอซ์แลนด์ หรือ ไม่ก็ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งตามจริงแล้ว ทั้งสามประเทศนี้ เป็นคนละประเทศกัน และแยกจากกันโดยอิสระ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เป็นประเทศเอกราช มีที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของสหราชอาณาจักรเมื่อดูตามแผนที่ ส่วนไอร์แลนด์เหนือนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วย ไอร์แลนด์เหนือ อังกฤษ สกอตแลนด์ และ เวลล์ และ ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ค่อนไปทางขั้วโลกเหนือ ใกล้ๆ กับ เกาะกรีนแลนด์ ทั้ง สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ(ภายใต้ชื่อสหราชอาณาจักร) เป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ อียู แต่ ประเทศไอซ์แลนด์มิได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม อียู แต่อย่างใด

ประเทศไอร์แลนด์เป็นสมาชิกที่อยู่ไกลสุดทางตะวันตกของสหภาพยุโรป มีประชากร 4 ล้านกว่าคน เป็นประเทศบนเกาะไอร์แลนด์ อยู่ห่างจากทวีปยุโรปไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับประเทศอังกฤษ มีเมืองหลวงคือ Dublin ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิค 

สภาพภูมิอากาศ: ประเทศไอร์แลนด์ แบ่งเป็น 4 ฤดู 
Jan-Feb เป็น เดือนที่หนาวที่สุด อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 4-7 องศาเซลเซียส 
Jul-Aug เป็น ช่วงที่มีอากาศอบอุ่นที่สุดของปี อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 14-16 องศาเซลเซียส 
May-Jun เป็นเดือนที่มีแสงแดดจัดที่สุดของปี
ส่วนช่วงอื่นจะมีฝนตกเป็นช่วงๆ
เวลา: ประเทศไอร์แลนด์จะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม.ในหน้าร้อนและ 7 ชม.ในหน้าหนาวโดยประมาณ
สกุลเงิน: ไอร์แลนด์เป็นประเทศในกลุ่ม EU แต่ใช้ภาษาอังกฤษ และใช้สกุลเงินเป็น ยูโร
ค่าครองชีพและค่าเทอมของประเทศไอร์แลนด์
ค่าครองชีพในประเทศไอร์แลนด์หากเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปแล้วถือว่าไม่สูงมากนัก ค่าเรียนเทอมโดยเฉลี่ยในระดับปริญญาตรี จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 – 50,000 ยูโรต่อหลักสูตร ซึ่งค่าเทอมนั้นขึ้นอยู่กับคณะที่เลือกเรียน  ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น เช่น
ค่าเดินทาง สัปดาห์ละ = 40.00 ยูโร
ซิมการ์ดโทรศัพท์ 2 GB พร้อมกับอินเตอร์เน็ต = 20.00 ยูโรต่อเดือน
ค่าสมาชิก Gym = 40.00 – 50.00 ยูโรต่อเดือน
กาแฟแก้วละ = 2.80 ยูโร
แซนวิชจากร้านค้าทั่วไป = 5.00 ยูโร
ค่าอาหารหนึ่งมื้อในร้านอาหาร = 15.00 – 20.00  ยูโร
ขนมปัง = 0.70 ยูโร
ผงซักฟอก 1 กล่อง = 6.00 ยูโร  เป็นต้น

เรียนต่อประเทศไอร์แลนด์ Study in Ireland
ไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกโดยรัฐบาลไอร์แลนด์มุ่งมั่นจะสร้างประเทศให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้นิยมมาเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุด โดยในแต่ละปีจะมีจำนวนนักเรียนประมาณ  200,000 คน ที่มาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยมีหน่วยงานของรัฐบาลไอร์แลนด์รับรองคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในดิรนแดนดั้งเดิมของยุโรปที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไอร์แลนด์จะมีมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง  ดูข้อมุลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศไอร์แลนด์  <คลิกที่นี่>
...................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้

      

Villiers School Ireland - เรียนต่อไอร์แลนด์ เรียนต่อมัธยมที่ไอร์แลนด์ เรียนต่อมัธยมที่ต่างประเทศ

Villiers School Ireland - เรียนต่อไอร์แลนด์ เรียนต่อมัธยมที่ไอร์แลนด์ เรียนต่อมัธยมที่ต่างประเทศ

โรงเรียน VILLIERS, LIMERICK


Villiers School is a co-educational, fee charging, boarding and day secondary school, located on the North Circular Road, Limerick, Ireland.
Founded from the estate of Mrs Hannah Villiers in 1821, the school has a Protestant ethos and is managed jointly by the Headmistress and a board of governors. The school relocated from Henry Street to its current location on the Tivoli campus on the North Circular Road less than one mile from Limerick city centre in 1953. Its campus has recently expanded significantly as the school acquired an adjoining two acre site, complete with two period houses.

Boarders number about one fifth of the student body with the rest commuting from Limerick and its environs. The student body is multi-denominational and diverse, including students from over twenty different countries includingSpain, France, Mexico, South Africa, Germany Japan, China, South Korea and Russia.

The school has modern classrooms, boarding facilities, a new gymnasium (2001) and hockey pitch (2002), a large IT suite and several science laboratories, which since has been greatly improved upon with the new interconnection of facility computers and remote desktop facilities. A new science, technology and art building was completed in 2007. All students sit the Irish Junior and Leaving certificates, and then progress onto third level education. As of September 2012, over 600 students are enrolled at the school. Its range of Leaving Certificate subjects surpasses all other schools in this region.




ค่าใช้จ่าย ปี 2018-2019



=======================================================


ข้อมูลทั่วไปของประเทศไอร์แลนด์
ไอร์แลนด์ หรือ ชื่อ เต็มว่า สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยทั่วไป คนไทยมักจะนำไปสับสนกับประเทศ ไอซ์แลนด์ หรือ ไม่ก็ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งตามจริงแล้ว ทั้งสามประเทศนี้ เป็นคนละประเทศกัน และแยกจากกันโดยอิสระ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เป็นประเทศเอกราช มีที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของสหราชอาณาจักรเมื่อดูตามแผนที่ ส่วนไอร์แลนด์เหนือนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วย ไอร์แลนด์เหนือ อังกฤษ สกอตแลนด์ และ เวลล์ และ ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ค่อนไปทางขั้วโลกเหนือ ใกล้ๆ กับ เกาะกรีนแลนด์ ทั้ง สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ(ภายใต้ชื่อสหราชอาณาจักร) เป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ อียู แต่ ประเทศไอซ์แลนด์มิได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม อียู แต่อย่างใด

ประเทศไอร์แลนด์เป็นสมาชิกที่อยู่ไกลสุดทางตะวันตกของสหภาพยุโรป มีประชากร 4 ล้านกว่าคน เป็นประเทศบนเกาะไอร์แลนด์ อยู่ห่างจากทวีปยุโรปไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับประเทศอังกฤษ มีเมืองหลวงคือ Dublin ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิค

สภาพภูมิอากาศ: ประเทศไอร์แลนด์ แบ่งเป็น 4 ฤดู 
Jan-Feb เป็น เดือนที่หนาวที่สุด อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 4-7 องศาเซลเซียส 
Jul-Aug เป็น ช่วงที่มีอากาศอบอุ่นที่สุดของปี อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 14-16 องศาเซลเซียส 
May-Jun เป็นเดือนที่มีแสงแดดจัดที่สุดของปี
ส่วนช่วงอื่นจะมีฝนตกเป็นช่วงๆ
เวลา: ประเทศไอร์แลนด์จะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม.ในหน้าร้อนและ 7 ชม.ในหน้าหนาวโดยประมาณ
สกุลเงิน: ไอร์แลนด์เป็นประเทศในกลุ่ม EU แต่ใช้ภาษาอังกฤษ และใช้สกุลเงินเป็น ยูโร
ค่าครองชีพและค่าเทอมของประเทศไอร์แลนด์
ค่าครองชีพในประเทศไอร์แลนด์หากเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปแล้วถือว่าไม่สูงมากนัก ค่าเรียนเทอมโดยเฉลี่ยในระดับปริญญาตรี จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 – 50,000 ยูโรต่อหลักสูตร ซึ่งค่าเทอมนั้นขึ้นอยู่กับคณะที่เลือกเรียน  ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น เช่น
ค่าเดินทาง สัปดาห์ละ = 40.00 ยูโร
ซิมการ์ดโทรศัพท์ 2 GB พร้อมกับอินเตอร์เน็ต = 20.00 ยูโรต่อเดือน
ค่าสมาชิก Gym = 40.00 – 50.00 ยูโรต่อเดือน
กาแฟแก้วละ = 2.80 ยูโร
แซนวิชจากร้านค้าทั่วไป = 5.00 ยูโร
ค่าอาหารหนึ่งมื้อในร้านอาหาร = 15.00 – 20.00  ยูโร
ขนมปัง = 0.70 ยูโร
ผงซักฟอก 1 กล่อง = 6.00 ยูโร  เป็นต้น

เรียนต่อประเทศไอร์แลนด์ Study in Ireland
ไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกโดยรัฐบาลไอร์แลนด์มุ่งมั่นจะสร้างประเทศให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้นิยมมาเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุด โดยในแต่ละปีจะมีจำนวนนักเรียนประมาณ  200,000 คน ที่มาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยมีหน่วยงานของรัฐบาลไอร์แลนด์รับรองคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในดิรนแดนดั้งเดิมของยุโรปที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไอร์แลนด์จะมีมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง  ดูข้อมุลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศไอร์แลนด์  <คลิกที่นี่>

..................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้

      

ระบบการศึกษาในประเทศไอร์แลนด์ Study in Ireland

ระบบการศึกษาในประเทศไอร์แลนด์ Study in Ireland เรียนต่อไอร์แลนด์



หลักสูตรเรียนภาษาระยะสั้นและระยะยาว
ที่ประเทศไอร์แลนด์มีสถาบันสอนภาษาอยู่หลากหลายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ในราคาที่ไม่แพงและมีตัวเลือกที่หลากหลาย
หลักสูตรประถมศึกษา 
การศึกษาระดับประถมศึกษาของประเทศไอร์แลนด์ จะใช้ระยะเวลา 8 ปี เริ่มจากชั้นอนุบาล 2 ปี และชั้นประถม 6 ปี
หลักสูตรมัธยมและอุดมศึกษา 
การศึกษาระดับมัธยมศึกษา ใช้ระยะเวลา 5 หรือ 6 ปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
การศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีที่ประเทศไอร์แลนด์ ใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ปี (ordinary) ถึง 4 ปี (honors) ในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยเอกชน
หลักสูตรปริญญาโทที่ประเทศไอร์แลนด์ ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 – 3 ปี ทั้งนี้แล้วแต่ภาควิชาที่กำหนด โดยเน้นเข้าห้องรียนและทำวิจัยควบคู่กัน
หลักสูตรปริญญาเอกที่ประเทศไอร์แลนด์ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี และเน้นการทำงานวิจัยเป็นหลัก
หลักสูตรวิชาชีพ 
การศึกษาหลักสูตรวิชาชีพด้านต่างๆ เช่น business, science, engineering เป็นต้น การสำเร็จการศึกษานี้จะได้รับการยอมรับจากองค์กรด้านการศึกษาและวิชาชีพต่างๆโดย Higher Education and Training Awards Council (HETAC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าทีควบคุม ดูแล และมอบวุฒิบัตรการศึกษาสำหรับนักเรียนที่เป็น Non University Sector
ระบบการศึกษาของไอร์แลนด์แบ่งออกเป็นสองระดับคือประกาศนียบัตรชั้นต้น (Junior Certificate) และประกาศนียบัตรชั้นสูง (Leaving Certificate) หลังจากจบประกาศนียบัตรชั้นต้น นักเรียนหลายคนเลือกเรียนหลักสูตรทางเลือกหนึ่งปี (Transition Year) ก่อนไปเรียนต่อประกาศนียบัตรชั้นสูง
ประกาศนียบัตรชั้นต้น – เป็นการศึกษาชั้นต้นหลักสูตร 3 ปี สำหรับนักเรียนอายุ 13 – 15 ปี โดยนักเรียนจะต้องลงเรียน 9 – 11 วิชา และเมื่อเรียนจบปีที่สามจะมีการสอบครั้งสำคัญ ถ้าผ่านนักเรียนจึงจะได้รับ “ประกาศนียบัตรชั้นต้น
ประกาศนียบัตรชั้นสูง – เป็นการศึกษาระดับสูงหลักสูตร 2 ปี สำหรับนักเรียนอายุ 17 – 18 ปี โดยนักเรียนจะต้อลงเรียน 6 – 8 วิชา และเมื่อเรียนจบปีที่สองจะมีการสอบครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้ “ประกาศนียบัตรชั้นสูง
===================================================================
> ดูข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าประเทศไอร์แลนด์<
===================================================================
===================================================================
...................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้

      

โปรแกรม Pathway คืออะไร และ ต่างกับหลักสูตร Pre-Master อย่างไร ?



การศึกษาต่อระดับปริญญาในประเทศอังกฤษและอเมริกานั้น มหาวิทยาลัยจะมีวิธีคัดเลือกนักศึกษา โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะ ใน 2 ปัจจัยหลัก คือ Transcript (ประวัติการศึกษา / เกรดเฉลี่ย) และ English Language Level (ระดับของภาษาอังกฤษ) ซึ่งในแต่ละปีมีนักศึกษาจำนวนมากมีคุณสมบัติไม่ตรงหรือไม่เพียงพอที่จะเข้าเรียนในหลักสูตรที่เลือก ทำให้เกิดแนวคิดของโปรแกรม ‘pathway’ ขึ้นในมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหราชอาณาจักรและอเมริกา ซึ่งการเรียน Pathway จึงช่วยทำให้การเข้าเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ หรือ อเมริกาไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เราเคยคิดค่ะ   

การเรียน Pathway คืออะไร
โปรแกรม Pathway เป็นทางเลือกสู่การเข้าเรียนระดับปริญญาได้โดยตรง โดยมีรูปแบบการสอนเฉพาะทางในวิชาที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรปริญญาที่คุณตั้งใจจะเข้าเรียน เพื่อเพิ่มทักษะการเรียนและการทำวิจัยที่จำเป็นต่อการเรียนในมหาวิทยาลัย รวมทั้งการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การศึกษาระดับปริญญา โดยโปรแกรม Pathways มีหลักสูตรทั้งระดับปริญญาตรี คือ Foundation Programmes และระดับปริญญาโท คือ ‘Pre-masters’ หรือ ‘Graduate Diploma’


หลักสูตร Pathway ส่วนใหญ่จะดำเนินการสอนโดยวิทยาลัยเอกชนที่สังกัดมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เช่น INTO, KAPLAN, STUDY GROUP หรือ NAVITAS เป็นการจับมือร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยที่จะสอนหลักสูตร Pathway ถือเป็นหลักสูตรที่ได้มาตรฐานและ มีการรับประกันผลการรับเข้าศึกษาต่อ ในระดับปริญญาของมหาวิทยาลัยอีกด้วย



ใครที่ควรเรียน Pathway Program  
หลักสูตร Pathway เหมาะกับ นักเรียนต่างชาติที่มีเกรดเฉลี่ยหรือภาษาไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญา โดยมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนต่างชาติได้มีโอกาสปรับตัวทางด้านวิชาการและความรู้ภาษาอังกฤษก่อนเข้าเรียนจริงร่วมกับเพื่อนนักเรียนประเทศนั้นๆ 

หลักสูตรนี้จะผสมระหว่างเรียนภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นและวิชาการที่เกี่ยวข้องและเป็นพื้นฐานของวิชาหลักที่จะเรียนใน Program ปริญญาตรี




ข้อดีของการเรียน Pathway Program
1. Pathway Program จะเป็นการเรียนเพื่อเตรียมความพร้อม และครอบคลุมการเรียนในปีแรกของหลักสูตรที่น้องๆลงไว้กับมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนระดับชั้นปริญญาตรีก็จะไม่เสียเวลาเรียน เพราะสามารถโอนหน่วยกิตช่วยที่เรียน Pathway ไปยังหน่วยกิตรวมของหลักสูตรในมหาวิทยาลัยได้ด้วย สำหรับนักศึกษาประิญญาดท จะต้องดูที่หน่วยกิตรวมของหลักสูตรและหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึง 

2. ระยะเวลาเรียน Pathway Program ของนักเรียนแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ซึ่งโปรแกรม Pathway จะมีตั้งแต่ 1-3 เทอม ทั้งนี้ใครจะต้องเรียนกี่เทอมขึ้นอยู่กับเกรดเฉลีย และ ระดับภาษาของนักเรียนเอง

3. นักเรียนต่างชาติที่ได้เรียนในช่วงPathway จะได้เรียนในคลาสที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. แบบที่เรียนกับนักเรียนต่างชาติด้วยกันทั้งคลาส เช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนในมหาวิทยาลัยที่เน้น สอนเกี่ยวกับการเขียนรายงานทางวิชาการ และ 2. คือคลาสเรียนวิชาปรกติของมหาวิทยาลัย ที่นักเรียนจะต้องตามเก็บหน่วยกิตให้ครบ  

แนะนำสถาบันที่เปิดสอน Pathway Program

1. INTO 

INTO the Global Educationเป็นสถาบันที่รวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหราชอาณาจักร และยังเป็นสถาบันที่มี สภาพแวดล้อมทาง การศึกษาที่ดีเยี่ยม ประกอบกับมีหลัก สูตรต่อเนื่องที่มีคุณภาพซึ่งนำไปสู่ การศึกษาต่อยังระดับมหาวิทยาลัย ในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอาจารย์ผู้สอนและเจ้าหน้าที่ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและประสบการณ์ ที่พร้อมจะให้ความช่วย เหลือนักศึกษาต่างชาติ รวมทั้งยังให้หลักประกันแก่นักศึกษาว่ามีมหาวิทยาลัยรองรับ เพื่อเข้าศึกษาอย่างแน่นอน

>> ดูข้อมูล INTO UK ประเทศอังกฤษ 
>> ดูข้อมูล INTO USA ประเทศอเมริกา 


2. KAPLAN

KAPLAN INTERNATIONAL PATHWAY เป็นวิทยาลัยเอกชนที่เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น University of York, University of Glasgow, City University of London, University of Birmingham, University of Nottingham และอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากที่น้องๆ เรียนจบจากคอร์สนี้ของที่นี่แล้ว ก็สามารถเลือกที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยพันธมิตรเหล่านี้ได้  ที่นี่เปิดสอนทั้งหลักสูตร Foundation, University Preparation และ Pre-Masters นอกจากจะได้เรียนในหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพกับบุคลากรคุณภาพแล้ว นักเรียนหลักสูตร Pathways ของที่นี่ยังสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ร่วมกับนักศึกษาของวิทยาลัยได้ด้วย 

3. Study Group


เป็นวิทยาลัยเอกชนที่เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยดังอันดับต้นๆ ของอังกฤษ 17 แห่ง เช่น Durham University, Lancaster University, University of Leeds, Royal Holloways University of London, University of Surrey เป็นต้น ที่นี่เปิดสอนหลักสูตร Pathways ก่อนการเข้าเรียนปริญญาตรีและปริญญาโท รวมถึงหลักสูตร Embassy English เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียนทั่วโลก




Pathway Program ต่างกับ Pre- Master อย่างไร

Pre- Master เป็น หลักสูตรต่ำกว่าปริญญาโท ที่จัดขึ้นสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีผลการศึกษาในระดับปริญญาตรีและความสามารถภาษาอังกฤษไม่เพียงพอตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เปรียบเสมือนเป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท มีระยะเวลาเรียนตั้งแต่ 6 -12 เดือน


โครงสร้างหลักสูตร Pre-Master มักประกอบด้วยการเรียน 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่

1. ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ประกอบไปด้วย ขั้นตอนการทำวิจัยการเข้าร่วมสัมมนา การพัฒนาคำศัพท์การเขียนเชิงวิชาการ การนำเสนอผลงาน และทักษะการทำข้อสอบ

2. วิชาเนื้อหาของสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เช่น มนุษยศาสตร์เบื้องต้น การจัดการและเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น กฎหมายยุโรปและกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น


อย่างไรก็ตามการเรียนหลักสูตร Pre-Master  ถือเป็นการเรียนที่แยกออกจากหลักสูตรปริญญาตรีและโทอย่างชัดเจน และส่วนใหญ่ ไม่ได้รับประกัน ว่าผู้เรียนจะสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทของสถาบันนั้นๆได้ แต่ผู้เรียนจะมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงข้อกำหนดข้อควรปรับปรุงพัฒนาและทิศทางของตนเองที่จะนำพาผู้เรียนเข้าสู่หลักสูตรปริญญาโทของมหาวิทยาลัยนั้นๆตามที่ผู้เรียนต้องการซึ่งนับเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อยังหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เราหมายตาไว้



...................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้

      

ทำไมถึงควรไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย

ทำไมถึงควรไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย



ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่นักเรียนไทยนิยมไปเรียนต่อกันมากที่สุด นั่นก็เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก เดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง (เวลาเร็วกว่าไทย 3 ชม.)

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและไม่เคยหยุดนิ่ง ชาวออสเตรเลียมีนิสัยกระตือรือร้น เป็นมิตรต่อชาวต่างชาติและอาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย ส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าครองชีพนั้น ซึ่งถ้าเทียบกับการไปเรียนที่อังกฤษ หรืออเมริกาแล้ว ออสเตรเลียถูกกว่ามาก อีกทั้งประเทศออสเตรเลียนั้นมีมาตรฐานการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย

ทำไมคุณทำไมคุณจึงควรเรียนภาษาอังกฤษในออสเตรเลีย?

ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยม โดยเฉพาะนักเรียนไทยที่ต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ เนื่องด้วยเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และบรรยากาศที่เป็นมิตร ด้วยระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานของออสเตรเลีย ส่งผลโรงเรียนสอนภาษาในออสเตรเลียมีคุณภาพสูง อีกทั้งยังเป็นที่ไว้วางใจว่าคุ้มค่ากับการลงทุน และเป็นประเทศที่ปลอดภัยอีกด้วย

เหตุผลอื่นๆที่ทำให้คุณต้องตัดสินใจไปเรียนภาษา ศึกษาต่อประเทศออสเตรเลีย 
1. ประเทศออสเตรเลียมีเมืองหลายเมืองที่ติดอันดับเมืองน่าอยู่ของโลกอย่าง เมลเบิร์น ซิดนี่ย์
2. มหาวิทยาลัย 7 แห่งในประเทศออสเตรเลีย ติดอันดับใน มหาวิทยาลัยดีที่สุด 100 แห่งทั่วโลก นอกจากนั้น การศึกษาในออสเตรเลียได้รับการยอมรับว่าดีกว่าประเทศเยอรมันนี เนเธอแลนด์ ญี่ปุ่น (U21 Ranking of National Higher Education Systems)
3. รัฐบาลประเทศออสเตรเลียให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนต่างชาติเป็นจำนวนเงิน 6,000 ล้านบาททุกปี
4. ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีอากาศดี อันดับต้นๆของโลก มีทั้งหน้าร้อน (แดดอุ่นๆ กับลมเย็นๆ จึงไม่ร้อนมากหนัก) หน้าหนาว (หนาวเป็นเย็นสบาย บางเมืองมีหิมะด้วย) หน้าฝน (ตกแรง คล้ายๆบ้านเรา)
5. ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีอาหารไทยเยอะมาก และร้านขายของไทยมีทุกอย่าง ดังนั้นเรื่องปัญหาอาหารการกินลืมไปได้เลยจ้า   
6. ประเทศออสเตรเลีย มีทะเล และชายหาดสวยๆมากมาย แถมอยู่ใกล้ตัวเมืองเดินทางไม่กี่นาทีถึง ไปเรียนเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย นอกจากทะเลแล้ว ประเทศออสเตรเลียมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆมากมาย อย่างเช่น  อูลูรู (Uluru) เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินิส และหาดบอนได Bondi Beach หาดชื่อดังที่ซิดนี่ย์
7. นักเรียนสามารถทำงานพาท์ไทม์ได้ในระหว่างที่เรียน เรียนได้ว่าแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเชียว
8. ชาวออสเตรเลียเป็นคนที่ใจดี เป็นมิตร และช่วยเหลือนักเรียนดีมากๆ เจอมากับตัวเวลาหลงทางหรือพูดภาษาอังกฤษไม่รู่็เรื่อง เค้าก็จะพยายามช่วยเหลือและพยายามเข้าใจ





สถาบันภาษาประเทศออสเตรเลีย 


















สนใจ เรียนภาษา เรียนต่อต่างประเทศ ต่อ diploma ป.ตรี ป.โท หรือ เรียนและทำงาน (Work & Study) 
ทักมาคุยกัน ปรึกษาฟรี ที่ 
LINE: @ova2590r
                                           

...................
สนใจสอบถามข้อมูล ติดต่อ 02-3924186 หรือ chanin@ascend-education.com (พี่นิน), lan@ascend-education.com (พี่หลัน)
สอบถามข้อมูลผ่าน LINE@ กดลิ้งนี้ https://line.me/R/ti/p/%40ova2950r

หรือไอคอนข้างล่างนี้